ประวัติต้นหูปลาช่อน

1.ชื่อวิทยาศาสตร์       : Emilia sonchifolia; จีน: 葉下紅

  แหล่งที่มาของข้อมูล : http://th.wikipedia.org/wiki/
2.ชื่อพื้นเมือง         : ใบเงิน โพเงิน โพด่าง โพแดง โพทอง โพสาย  แสงทอง หูกระต่าย

ความหมาย

ผักชนิดหนึ่ง ใบกลมเป็น ๒ ตอน ริมจักแข็งกรอบ มีกลิ่นหอม ใช้เป็นผักจิ้มปลาร้า ปลาเจ่า ฯลฯ.

ลักษณะของต้น 

 : ไม้พุ่มขนาดเล็ก ลำต้นสีน้ำตาล ตั้งตรง มีขนนุ่ม 

 ใบ (Foliage) :  ใบเดี่ยว เรียงสลับ ใบมีรูปร่างหลายแบบทั้งเเบบใบรูปกลม รูปไข่ รูปรีหรือรูปหัวใจ กว้าง 7-9 เซนติเมตร 
ยาว 12-14 เซนติเมตร ปลายใบมนหรือแหลมเรียวยาวคล้ายหาง โคนใบเว้า ขอบใบหยักหรือจัก
แบบฟันเลื่อย แผ่นใบมีหลายสีแล้วแต่พันธุ์ เข่น สีเหลืองอ่อน น้ำตาลแดง หรือมีจุดประสีต่างๆ
  ดอก (Flower) : สีขมพู ออกเป็นข่อแบบช่อเชิงลดที่ปลายกิ่ง ช่อดอกตั้งขึ้น ดอกย่อยมีขนาดเล็ก โคนกลีบดอก
เชื่อมกันเป็นหลอด 
    ผล (Fruit) : ผลแห้งแตก
ประโยชน์ทางด้านสมุนไพร :  ใบมีสรรพคุณใช้คั้นหยอดแก้เจ็บตา แก้เจ็บหู ดอกใช้สมานแผล ห้ามเลือด
  แหล่งที่มาของข้อมูล : http://agkc.lib.ku.ac.th/plantwebsite/webpage/Shrubs/
ประโยชน์ทางด้านสมุนไพร :  ยอดอ่อนและใบอ่อนใช้รับประทานแทนผักสดจิ้มน้ำพริก หรือแกล้มกับลาบ ลำต้นใช้แก้เจ็บคอ ฝี บิด ท้องร่วง
แก้อาการผื่นคัน บวมน้ำ ส่วนรากใช้แก้โรคตานขโมย และเนื่องจากมีรสจืด เย็นจึงช่วยบรรเทาความร้อนในร่างกายได้
จากที่กล่าวมาแล้วคิดว่าท่านพี่น้องเกษตรกรคงรู้จักต้นหูปลาช่อน และสรรพคุณกันแล้วนะคะ ถ้าพี่น้องเกษตรกรพบต้นหูปลาช่อนขึ้นในสวน
หรือนาอีก ก็อย่าเพิ่งถอนทิ้งเลยนะคะ นำมาทำเป็นอาหารรับประทานกันดีกว่า
  แหล่งที่มาของข้อมูล : http://agricom.doae.go.th/agricom/magazine/157/page_4.htm
ประโยชน์ทางด้านสมุนไพร :  ใบ คั้นน้ำ หยอดหูแก้เจ็บหู หยอดตาแก้เจ็บตา
   ดอก สมานแผล ห้ามเลือด
   ทั้งต้น ขับเสมหะ แก้หืดไอ ห้ามเลือด แก้ต่อมทอนซิลอักเสบ แก้ตาแดง แก้อุจจาระเป็นเลือด
  แหล่งที่มาของข้อมูล : http://www.saiyathai.com/herb/943000.htm
แหล่งที่พบ :  สปก.,บริเวณบ้าน,ริมถนนทั่วไป
  แหล่งที่มาของข้อมูล : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=1422
แหล่งที่พบ : พบขึ้นตามป่าหญ้าปนกับวัชพืชชนิดอื่น พบขึ้นตามพื้นที่รกร้างทั่วไป
  แหล่งที่มาของข้อมูล :http://www.saiyathai.com/herb/943000.htm

การปลูก

 "หูปลาช่อน" เป็นไม้ปลูกประดับเพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะหากสัมผัสจะทำให้ระเคือง คันผิวหนัง หากเข้าตาอาจทำให้เยื่อบุตาอักเสบได้เช่นกัน

                          เป็นไม้ล้มลุก อยู่ในวงศ์ EUPHORBIACEAE สูงราว 1-2 เมตร มีถิ่นกำเนิดแถบหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก

                          ใบ เป็นใบเดี่ยว ทรงรีออกรูปหัวใจ โคนใบจะเว้า ขอบใบล่างลึกเว้าเข้าหาเส้นกลางใบ ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย สีสันของใบมีทั้งเขียวหัวเป็ด น้ำตาล บางสายพันธุ์ใบบิดย่นเป็นเกลียว

                          ดอก ออกเป็นช่อ อัดกระจุกที่ปลายยอด กว้าง 4-5 มิลลิเมตร ยาว 8-10 มิลลิเมตร เป็นดอกสมบูรณ์เพศ กลีบดอกมีสีชมพูเข้ม

                          ผล เป็นฝักเล็กๆ พอแห้งจะแตกมีเมล็ดจะล่อนไปไกลกว่าวัชพืชชนิดอื่นๆ

                          ขยายพันธุ์ ด้วยเมล็ด ขึ้นได้ในทุกพื้นที่ ชอบความชื้นปานกลาง แสงแดดเต็มวัน

การดูแล

หูปลาช่อน'สวยแต่มีพิษ "หูปลาช่อน" เป็นไม้ปลูกประดับเพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะหากสัมผัสจะทำให้ระเคือง คันผิวหนัง หากเข้าตาอาจทำให้เยื่อบุตาอักเสบได้เช่นกัน 

เป็นไม้ล้มลุก อยู่ในวงศ์ EUPHORBIACEAE สูงราว 1-2 เมตร มีถิ่นกำเนิดแถบหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก 

ใบ เป็นใบเดี่ยว ทรงรีออกรูปหัวใจ โคนใบจะเว้า ขอบใบล่างลึกเว้าเข้าหาเส้นกลางใบ ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย สีสันของใบมีทั้งเขียวหัวเป็ด น้ำตาล บางสายพันธุ์ใบบิดย่นเป็นเกลียว 

ดอก ออกเป็นช่อ อัดกระจุกที่ปลายยอด กว้าง 4-5 มิลลิเมตร ยาว 8-10 มิลลิเมตร เป็นดอกสมบูรณ์เพศ กลีบดอกมีสีชมพูเข้ม 

ผล เป็นฝักเล็กๆ พอแห้งจะแตกมีเมล็ดจะล่อนไปไกลกว่าวัชพืชชนิดอื่นๆ 

ประวัติส่วนตัว

นางสาว สมฤดี   กองโคตร  ชื่อเล่น  ออย

 อายุ  16  เกิดวันที่  13  กุมภาพันธ์   2541

บ้านเลขที่ 47หมู่11  บ้านใหม่พัฒนา  

ตำบนชีลอง   อำเภอเมือง   จังหวัดชัยภูมิ